ลิเวอร์พูลเฮ “ติอาโก้” คืนทัพ! “ซาลาห์-มาเน่” นำตะบันเชฟยูส่งบรูว์สเตอร์ลุ้นยิงทีมเก่า

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล จะได้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ที่หายเจ็บกลับมาเคลื่อนทัพแดนกลาง ขณะที่แผงแนวรุก โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ พร้อมประสานคมพักตาข่ายเกมรับ "ดาบคู่" เชฟฯ ยูไนเต็ด ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 24 ต.ค. ศกนี้  ถ่ายทอดสด : True Premier HD 1 (เวลา : 02.00 น.)
ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563
ลิเวอร์พูล   –   เชฟฯ ยูไนเต็ด
ถ่ายทอดสด : True Premier HD 1 (เวลา : 02.00 น.)

สนาม : แอนฟิลด์

ลิเวอร์พูล :

    ลิเวอร์พูลบุกไปเสมอกับเอฟเวอร์ตัน 2-2 ในเกมลีกนัดล่าสุดก่อนที่จะเฉือนชนะ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม 1-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ดี นัดแรก

    ความพร้อมของหงส์แดงในเกมนี้จะไม่มี เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ที่มีอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่ารบกวนจนต้องเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งจะทำให้กองหลังทีมชาติฮอลแลนด์ ต้องหยุดสถิติออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในเกมลีกเอาไว้ 94 นัดติดต่อกัน นอกจากนี้ อลีสซง เบ็คเกอร์ ยังคงต้องพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ โดยเป็นที่คาดกันว่า จอมหนึบทีมชาติบราซิล จะกลับมาเฝ้าเสาได้ก่อนสิ้นเดือนนี้

    แต่มีข่าวดีคือ ติอาโก้ อัลกันตาร่า พร้อมที่จะกลับมาช่วยทีมในเกมนี้หลังจากที่สลัดอาการบาดเจ็บจากการปะทะกับ ริชาร์ลิซอน จน ดาวยิงบราซิเลียน โดนใบแดงไล่ออกจากสนามในเกมลีกนัดก่อน

    ในแผงหลัง ฟาบินโญ่ คงจะได้รับโอกาสลงสนามในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กต่อไป โดยจะจับคู่กับ โจ โกเมซ เช่นเดิมหลัง อดีตแข้ง อาแอส โมนาโก โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจในเกมกับอาแจ็กซ์ถึงแม้ว่า โฌแอล มาติป พร้อมที่จะกลับมาช่วยทีมแล้วก็ตาม

    ส่วนในแดนหน้า เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน คงจะยึดผู้เล่นชุดเดิมต่อไป ซึ่งก็คือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ทั้งที่ ฟีร์มีโน่ ถูกตั้งคำถามมากมายเกี่ยวกับสภาพความฟิตของเขา รวมทั้ง ดีโอโก้ โชต้า ที่ได้ลงมาเป็นตัวสำรองจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมกลางสัปดาห์ก็ตาม

    ด้าน นาบี เกอิต้า และ คอสตาส ซิมิกาส ก็สลัดอาการบาดเจ็บเตรียมกลับเข้ามาสู่ทีมอีกครั้ง ขณะที่ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ยังคงต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานาน

เชฟฯ ยูไนเต็ด :

    เชฟฯ ยูไนต็ด ยังคงหวานหาชัยชนะนัดแรกในฤดูกาลนี้ไม่เจอหลังไม่ชนะใครมา 6 เกมแล้วรวมทุกรายการ เกมลีกนัดล่าสุดเปิดบ้านเสมอกับฟูแล่ม 1-1

    ทีมเยือนกำลังประสบปัญหาผู้เล่นโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แจ็ค โอคอนเนลล์ ที่โดนโรคเดี้ยงบริเวณหัวเข่าเล่นงานจนต้องเข้ารับการผ่าตัดและคงจะต้องพักรักษาตัวในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้ รวมทั้ง จอห์น เฟล็ค, ลีส์ มูสเซ และ แม็กซ์ ลอว์ ที่ถูกส่งประเดิมสนามในเกมลีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่อยู่ในสนามได้เพียง 19 นาทีเท่านั้นหลังจากที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บและอาจจะไม่สามารถลงสนามได้ในเกมนี้

    ทำให้ คริส ไวล์เดอร์ ผู้จัดการทีม คงจะส่ง อีธาน อัมปาดู ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงอีกครั้ง โดยที่ เอ็นดา สตีเว่นส์ จะขยับจากตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กฝั่งซ้ายกลับไปยืนตำแหน่งวิงแบ็กซ้าย

    ขณะที่ในแนวรุก รีอาน บรูว์สเตอร์ จะได้ลงสนามเป็นตัวจริงเผชิญหน้ากับต้นสังกัดเก่า ซึ่งไวล์เดอร์ก็หวังว่าบรูว์สเตอร์จะงัดฟอร์มเก่งออกมาเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ เจ้านายเก่า รู้สึกว่า เขาคิดผิดที่ปล่อยตัวแข้งรายนี้ออกจากทีม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

    ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อาเดรียน, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – ติอาโก้ อัลกันตาร่า, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, นาบี เกอิต้า – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่
    ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์

    เชฟฯ ยูไนเต็ด (3-5-2) : อารอน แรมส์เดล – คริส บาแชม, อีธาน อัมปาดู, จอห์น เอแกน – จอร์จ บัลด็อค, จอห์น ลุนด์สแตรม, โอลิเวอร์ นอร์วู้ด, ซานเดอร์ เบิร์ก, เอ็นดา สตีเว่นส์ – โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่, รีอาน บรูว์สเตอร์
    ผู้จัดการทีม : คริส ไวล์เดอร์

    ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน

5จุดสำคัญที่จะทำให้มูรินโญ่พาสเปอร์สบินสูง

เปิด 5 เหตุผลสำคัญที่จะทำให้ โชเซ่ มูรินโญ่ พา สเปอร์ส ทำผลงานเยี่ยมในซีซั่นนี้ หลังเริ่มจูนทีมได้ลงตัวในการทำงานฤดูกาลที่สอง
        ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ พุ่งขึ้นมาเป็นเต็ง 3 ที่จะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020/21 ตามสายตาของบริษัทรับพนันที่ถูกกฎหมายแทบทุกแห่งในประเทศอังกฤษ โดยเป็นรองแค่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล เท่านั้น

    โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ "ไก่เดือยทอง" กำลังปรับจูนทีมของตัวเองให้ลงตัว หลังเข้ามาทำงานช่วงปลายปีที่แล้ว และนี่คือ 5 เหตุผลที่จะทำให้พวกเขาไปได้สวยในฤดูกาลนี้

    1. ขุมกำลังแน่นปึ๊กทุกตำแหน่ง

    ในช่วงเปิดตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านมา สเปอร์ส ได้นักเตะมาเสริมทัพหลายรายทั้ง แกเร็ธ เบล, เซร์คิโอ เรกีลอน, คาร์ลอส วินิซิอุส, แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้, ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบิร์ก และ  โจ ฮาร์ท

    จากการที่ทีมมีขุมกำลังขนาดใหญ่ทำให้ มูรินโญ่ สามารถหมุนเวียนนักเตะได้กับการลงเตะหลายรายการที่ต้องลงเล่นสัปดาห์ละ 2 นัด

    ในเวลานี้ ทุกตำแหน่งของ สเปอร์ส มีผู้เล่นที่ทดแทนกันได้หมดไล่ตั้งแต่นายทวารที่มีทั้ง อูโก้ โยริส และ ฮาร์ท ขณะที่แนวรับก็ดูดีขึ้นหลังได้ทั้ง เรกีลอน และ โดเฮอร์ตี้ มาเสริมทัพ

    จากการที่มีตัวเลือกหลายรายส่งผลให้ มูรินโญ่ สามารถเลือกเล่นได้ทั้งแท็กติก 4-3-3 หรือ 3-5-2 ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตรงหน้าว่าจะเจอกับคู่แข่งทีมไหน

    2. ซน-เคน คู่หูนรกแตก

    ในฤดูกาลนี้ ซน ฮึง-มิน กองหน้าชาวเกาหลีใต้ ออกสตาร์ตได้ร้อนแรงด้วยการทำประตูในลีกไปแล้วถึง 7 ลูกจากการลงเล่น 5 นัด ขณะที่ใน 4 ซีซั่นก่อนหน้านี้เขาก็ทำประตูในทุกรายการรวมกันได้ถึง 77 ประตูด้วยกัน จนทำให้ได้รับคำชมอย่างมากในพักหลัง

    ขณะที่ แฮร์รี่ เคน กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ทำไปแล้ว 5 ประตูใน พรีเมียร์ลีก นอกจากนั้นทั้งคู่ยังผลัดกันจ่ายให้ยิงอีกเป็นว่าเล่น โดยในเกมบุกไปเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน ขาดลอย 5-2 นั้น เคน แอสซิสต์ 4 ลูกให้ ซน ทำให้เป็นครั้งแรกใน พรีเมียร์ลีก ที่มีนักเตะคนเดิมจ่ายให้เพื่อนคนเดิมยิงทั้ง 4 ประตูอีกด้วย

    การสลับกันเป็นฝ่ายยิงและจ่ายระหว่างคู่หู "เคน-ซน" ทำให้มีประตูที่เกิดขึ้นจากการประสานงานกันของทั้งคู่ในศึก พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว 28 ลูก ซึ่งมากสุดอันดับ 4 ในประวัติศาสตร์ ต่อจากคู่หู แฟร้งค์ แลมพาร์ด กับ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา (36 ประตู), ดาบิด ซิลบา กับ เซร์คิโอ อเกวโร่ (29 ประตู) และ โรแบร์ ปิแรส กับ เธียร์รี่ อองรี (29 ประตู) เท่านั้น

    นอกจากนี้ นับตั้งแต่ที่ มูรินโญ่ ก้าวเข้ามาคุมทัพ "ไก่เดือยทอง" เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีก่อน เคน (33 ประตู) กับ ซน (30 ประตู) เป็นสองนักเตะที่มีส่วนร่วมกับการทำประตูรวมทุกรายการมากสุด เหนือทุกคนในเวที พรีเมียร์ลีก อีกด้วย

    3. ฮอยเบิร์ก ขับเคลื่อนเกม

    อีก 1 นักเตะ สเปอร์ส ที่ได้รับคำชมอย่างมากคือ ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก กองกลางทีมชาติเดนมาร์ก ที่เพิ่งย้ายมาจาก เซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา

    ค่าตัวของ ฮอยเบิร์ก วัย 25 ปี อยู่ที่แค่ราว 15 ล้านปอนด์ (ประมาณ 600 ล้านบาท) เท่านั้น และเจ้าตัวก็ยึดตัวจริงได้อย่างรวดเร็ว โดยลงเล่นเป็นตัวจริงทั้ง 5 นัดใน พรีเมียร์ลีก และลงสนามเกม ยูโรปา ลีก ที่ชนะ แอลเอเอสเค 3-0 ด้วย

    ฮอยเบิร์ก ทำได้เยี่ยมทั้งในเรื่องการตัดเกม ส่งผลให้ช่วยงานของกองหลังได้เยอะ ขณะที่การทำเกมรุกก็โดดเด่น จ่ายบอลได้เยี่ยม เหมือนอย่างที่แสดงให้เห็นในการจ่ายทะลุช่องเข้าเขตโทษให้ แซร์ช ออริเย่ร์ ยิงประตูในเกมบุกไปถล่ม แมนฯ ยูไนเต็ด 6-1

    4. ไม่ใช่ มู จอมน่าเบื่ออีกแล้ว

    ก่อนหน้านี้ มูรินโญ่ ถูกมองว่า เป็นกุนซือที่น่าเบื่อ และชอบใช้แผนรถบัสในการเน้นผลการแข่งขัน ส่งผลให้ทีมของเขาไม่ค่อยทำประตูได้มากนัก

    อย่างไรก็ตาม ในซีซั่นนี้ สเปอร์ส ไม่ได้เป็นทีมที่เล่นได้น่าเบื่อ เพราะตั้งแต่เกมแรกที่แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-1 นั้น พวกเขาก็เดินหน้ายิงประตูคู่แข่งได้มากมาย

    "ไก่เดือยทอง" เอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 5-2 บุกถล่ม แมนฯ ยูไนเต็ด 6-1 และเสมอ เวสต์แฮม 3-3 ขณะที่ในถ้วย ยูโรปา ลีก ก็อัด มัคคาบี้ ไฮฟา 7-2 และชนะ แอลเอเอสเค 3-0

    5. ระวังทีเด็ด เบล

    แกเร็ธ เบล ปีกซูเปอร์สตาร์ทีมชาติเวลส์ ได้กลับมาเล่นให้ สเปอร์ส อีกครั้ง หลังย้ายมาจาก เรอัล มาดริด ด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล

    เบล กลับมาสวมยูนิฟอร์ม "ไก่เดือยทอง" หนแรกในรอบ 7 ปี หลังจากที่เจ้าตัวเก็บข้าวของย้ายจาก สเปอร์ส ไปร่วมทัพ "ราชันชุดขาว" เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2013 ด้วยค่าตัวเป็นสถิติโลก ณ เวลานั้น ที่ 100 ล้านยูโร (ประมาณ 3,700 ล้านบาท)

    แม้ เบล จะยังทำประตูให้ สเปอร์ส ในรอบนี้ไม่ได้ แต่ถ้าดาวเตะเวลส์ กลับมามีสภาพร่างกายสมบูรณ์เต็มร้อยล่ะก็ รับรองว่าเขาจะมีทีเด็ดแน่นอน

คาวานี่ต้องมา!ส่อง2แผนเด็ดแมนยูรับมือเชลซี

คาด 2 แผนเด็ดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะใช้รับมือ เชลซี ในเกม พรีเมียร์ลีก วันเสาร์นี้ หลังเพิ่งโชว์ฟอร์มเยี่ยมบุกไปอัด เปแอสเช ในถ้วยยุโรป
     โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังมีลุ้นพา "ปีศาจแดง" เก็บชัยชนะ 3 นัดติดในทุกรายการ หลังจากสองเกมที่ผ่านมาบุกไปถล่ม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 4-1 ใน พรีเมียร์ลีก และออกไปเฉือน ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 2-1 ในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

    แมนฯ ยูไนเต็ด มีโปรแกรมนัดต่อไปด้วยการเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ เชลซี ใน พรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคมนี้ โดยที่ โซลชา จะหมดสิทธิ์ใช้งาน อองโตนี่ มาร์กซิยาล กองหน้าชาวฝรั่งเศส ที่ยังติดโทษแบน แต่ เอดินสัน คาวานี่ ดาวยิงคนใหม่พร้อมลงสนามแล้ว

    ส่วนนักเตะรายอื่นๆ ที่ยังไม่พร้อมลงสนามคือ เอริกไบยี่ และ เจสซี่ ลินการ์ด ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนทั้งคู่ และเกมนี้สื่ออังกฤษคาดว่า โซลชา จะใช้ 2 แท็กติกนี้ลงบู๊กับ เชลซี

    1. ระบบ 3-4-1-2

    โซลชา ใช้แผนนี้ได้ผลในเกมบุกไปชนะ เปแอสเช โดยเฉพาะ อั๊กเซล ตวนเซเบ้ ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมสามารถรับมือกับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ และ เนย์มาร์ ได้อยู่หมัด

    ส่วนอีก 2 รายในระบบกองหลัง 3 คนน่าจะเป็น แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง และ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ โดยมี ดาบิด เด เคอา ยืนเฝ้าเสา

    ส่วนแผงกลาง 4 คนให้ อารอน วาน-บิสซาก้า กับ อเล็กซ์ เตลลิส ทำหน้าที่วิงแบ็ก ส่วนคู่กลางใช้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ ปอล ป็อกบา

    ด้านแนวรุกให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส คอยทำเกมอยู่หลังคู่กองหน้า คาวานี่ กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด

    2. ระบบ 4-2-3-1

    แผนนี้จะกลับมาใช้ระบบกองหลัง 4 คน โดยให้ ตวนเซเบ้ ลงมาเป็นตัวจริงแทน แม็กไกวร์ คู่กับ ลินเดอเลิฟ ขณะที่ วาน-บิสซาก้า ทำหน้าที่แบ็กขวา และ ลุค ชอว์ ประจำการแบ็กซ้าย

    ส่วนมิดฟิลด์คู่กลางใช้ เนมานย่า มาติช ประสานงานกับ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ขณะที่ 3 แนวรุกให้ แดเนียล เจมส์ ยืนฝั่งขวา และ แรชฟอร์ด เล่นทางด้านซ้าย

    ด้าน บรูโน่ ยืนสูงคอยทำเกม อยู่หลัง คาวานี่ ที่จะทำหน้าที่กองหน้าตัวเป้า

รายได้ต่อปีเท่าไหร่..ถ้าเป็นผู้ตัดสินระดับฟีฟ่าเบอร์ 1 ของไทย

เพิ่งจะบอกปัดข้อเสนอสุดงดงามจากไชนีส ซุปเปอร์ลีกของจีนที่ให้ค่าจ้างต่อการตัดสิน 1 แมตช์ 1 แสนบาท และเบี้ยเลี้ยงอีกวันละ 1 หมื่น การันตีเดือนเดียวที่จ้างไปเกิน 5 แสนบาท ทำให้หลายคนเกิดข้อสงสัยว่า ผู้ตัดสินรายได้จะงดงามแบบนี้หรือไม่ถ้าไม่ถูกจ้างไปเป็นพิเศษ
    “เปาโค้ช”ศิวกร ภูอุดม ฟีฟ่าอีลิตที่ถูกยกให้เป็นผู้ตัดสินระดับตัวท็อปเบอร์หนึ่งของไทยในตอนนี้ ได้เปิดเผยถึงรายได้ของการตัดสินของตัวเองว่า ถ้าเป็นก่อนช่วงโควิดเมื่อปีที่แล้ว จะได้รับค่าตัดสินแมตช์ละ 1 หมื่นบาท โดยเดือน ๆ หนึ่งมี 3-4 แมตช์ก็จะได้เดือนละประมาณ 4 หมื่นบาท

        “ถ้าคิดเป็นต่อปีก็ได้อยู่ในราว 2.4 แสนบาท เพราะไม่ได้เป่าทั้งปี ขณะที่ถ้าไปเอเอฟซี จะได้เบี้ยเลี้ยงวันละ 200 เหรียญหรือ 6,000 บาทในช่วงเดินทาง แมตช์แข่งก็ได้เท่ากัน แต่จะได้ค่อนข้างยาวหน่อย ปีที่แล้วผมมีรายได้จากเอเอฟซี ก็ตกประมาณ 2 แสนกว่า รวมแล้วต่อปีก็รับประมาณ 5 แสนบาททั้งลีกไทยและเอเอฟซี ไม่รวมการถูกเชิญไปตัดสินบอลลีกของเพื่อนบ้าน ถามว่าอยู่ได้ไหม ก็ได้ล่ะครับ เพราะงานจะเข้ามาเรื่อย ๆ ยิ่งผลงานดี รายได้ก็จะเพิ่มมากขึ้นตามฝีมือและผลงานไปด้วยครับ”

แฟนบาเยิร์นเซ็ง!เดวิสเดี้ยงพักยาว2เดือน

ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับสาวก "เสือใต้" เพราะล่าสุดเป็นที่แน่นอนแล้ว อัลฟอนโซ่ เดวิส แบ็กซ้ายความเร็วสูง จะต้องพักแข้งราว 2 เดือน หลังเจ็บหนักมาจากเกมลีกเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

ฮันซี่ ฟลิค เทรนเนอร์ บาเยิร์น มิวนิค ยืนยันว่า อัลฟอนโซ่ เดวิส แบ็กซ้ายดาวรุ่งคนเก่ง จำเป็นต้องพักแข้งราว 6-8 สัปดาห์ หลังได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่เอ็นข้อเท้าขวา จากเกม บุนเดสลีกา เยอรมัน นัดล่าสุดที่ "เสือใต้" เปิดรัง อัลลิอันซ์ อารีน่า ไล่ถล่ม ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต 5-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา

"เขาเจ็บที่เอ็นข้อเท้า โดยมีเอ็นเส้นหนึ่งขาด และอีกเส้นหนึ่งเกือบขาด เราประเมินกันว่า เขาน่าจะพักราว 6-8 สัปดาห์ แน่นอนว่า การเสีย เดวิส ไป ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเรา" ฟลิค กล่าวหลังเกม

ทั้งนี้ ดาวเตะทีมชาติแคนาดาวัย 19 ปี ได้รับบาดเจ็บตั้งแต่ต้นเกม ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามในนาทีที่ 3 (ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ ถูกส่งลงไปเล่นแทน) โดยเกมนี้ บาเยิร์น ได้ประตูจาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่เหมาทำคนเดียว 3 ประตูแรก ในนาทีที่ 10, 26 และ 60 ซึ่งถือเป็นแฮตทริกหนที่สองของเจ้าตัวในศึก บุนเดสลีกา ฤดูกาลนี้ด้วย ก่อนที่ ลีรอย ซาเน่ และ จามัล มูเซียล่า จะช่วยทำอีกคนละประตูในนาทีที่ 72 และ 90 ตามลำดับ

คนนี้แฟนหงส์ถูกใจไหม? สื่อยันลิเวอร์พูลเดินหน้าซื้อกองหลังคนใหม่แล้ว

สื่ออังกฤษ ตีข่าว ลิเวอร์พูล เปิดฉากคุยกับทีมเมืองเบียร์แล้วเพื่อขอซื้อกองหลังมาเสริมทัพช่วงปีใหม่ หลัง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ต้องพักยาว
   
ลิเวอร์พูล แชมป์เก่า พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เดินหน้าเจรจากับ ชาลเก้ 04 สโมสรในศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน เพื่อขอซื้อตัว โอซาน คาบัค ปราการหลังดาวรุ่งทีมชาติตุรกี มาเข้าถิ่น แอนฟิลด์ ช่วงเปิดตลาดหน้าหนาวเดือนมกราคมนี้แล้ว ตามรายงานจาก ซันเดย์ มิร์เรอร์ สื่อเมืองผู้ดี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา

"หงส์แดง" กำลังมองหาเซนเตอร์แบ็กคนใหม่เข้ามาเสริมทัพ เพราะ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังคนเก่งต้องพักยาวจากการผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าหัวเข่า หลังโดน จอร์แดน พิคฟอร์ด นายทวาร เอฟเวอร์ตัน เข้าสกัดหนักใส่ในเกมลีกที่เสมอกัน 2-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา

ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา "หงส์แดง" เคยมีข่าวกับ คาบัค วัย 20 ปี มาแล้ว และเวลานั้น ชาลเก้ ตั้งค่าตัวไว้ที่ 40 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,600 ล้านบาท) แต่หลังจากที่ "ราชันสีน้ำเงิน" ออกสตาร์ตฤดูกาลย่ำแย่ทำให้พร้อมลดราคานักเตะลงมาเหลืออยู่ที่ราว 30 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,200 ล้านบาท)

อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล พร้อมจะจ่ายค่าตัวเบื้องต้นให้ ชาลเก้ จำนวน 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 800 ล้านบาท) พร้อมกับโบนัสอีกส่วนหนึ่งตามเงื่อนไขที่ทำได้ ส่งผลให้ทั้งสองสโมสรยังต้องคุยกันอีกเพื่อให้บรรลุข้อตกลงร่วมกัน

ทั้งนี้ คาบัค มีสไตล์การเล่นที่ดุดัน แข็งแกร่ง กล้าลุย รวดเร็ว และเล่นลูกกลางอากาศได้ดี รวมทั้งมี ฟาน ไดค์ เป็นไอดอลของตัวเองด้วย

จะวุ่นไหม?คลิปแฉ1แข้งเรอัลมาดริดเหมือนจวกซีดาน

ในตอนที่ เรอัล มาดริด ไปเยือน คัมป์ นู ของ บาร์เซโลน่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานั้น โมบีสตาร์ สื่อของสเปนถ่ายชอตที่ อีสโก้ เหมือนจะเฉ่ง ซีเนดีน ซีดาน เอาไว้ได้ โดยดาวเตะชาวสแปนิชบ่นเรื่องที่เขาได้ลงเล่นน้อย หลังจากซีซั่นนี้ยังไม่เคยได้เล่นครบ

อีสโก้ กองกลาง เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที ลา ลีกา สเปน ถูกถ่ายคลิปในตอนที่เหมือนกับว่ากำลังตำหนิ ซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์ของทีมที่ไม่ยอมใช้งานเขามากเท่าที่ควร

ถึงแม้ฤดูกาลนี้ อีสโก้ จะได้ลงเล่นในลีกไปทั้งหมด 4 เกมจากทั้งหมด 6 นัด แต่มันก็เป็นในฐานะตัวจริงเพียง 2 เกมเท่านั้น แถมมันยังไม่มีนัดไหนที่เขาได้ลงเล่นครบ 90 นาทีเต็มเลยด้วย โดยถ้านับเป็นจำนวนนาทีแล้วนั้นเขาก็ได้เล่นไปเพียงรวม 148 นาที

ทั้งนี้ โมบีสตาร์ สื่อของสเปนรายหนึ่งไปจับคลิปตอนที่ อีสโก้ กำลังคุยกับเพื่อนร่วมทีมตอนอยู่ที่ คัมป์ นู สนามเหย้าของ บาร์เซโลน่า เอาไว้ได้ ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวพูดกับเพื่อนร่วมทีมว่า "ถ้าเกิดเขาจะถอดฉันออกจากสนามแล้วล่ะก็ เขาก็จะทำตั้งแต่นาทีที่ 50 หรือ 60 ของเกม บางครั้งเขาเปลี่ยนตัวฉันตั้งแต่ตอนพักครึ่งด้วยซ้ำ แต่ถ้าเขาจะเปลี่ยนฉันลงไปเล่นแล้วน่ะเขาก็จะส่งฉันลงสนามในนาทีที่ 80 นู่น"

แนวรับแกร่ง,คาวานี่เกือบยิง!ตัดเกรดแข้งแมนยูเกมเจ๊าจืดเชลซี

เกมบิ๊กแมตช์ในศึก พรีเมียร์ลีก ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ เชลซี เมื่อคืนวันเสาร์ จบลงด้วยการเสมอกันไป 0-0 โดยที่ "ปีศาจแดง" มีโอกาสได้ลุ้นมากกว่า แต่จบกันไม่คม แถมต้องซูฮกความเหนียวหนึบของนายประตูทีมคู่แข่งด้วย ส่วนแนวรับถือว่าต้องชื่นชม เพราะทำให้ "สิงห์บลูส์" แทบไม่มีโอกาสได้ลุ้นทำประตูเลย และนี่คือผลสอบของนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ละคนในแมตช์นี้
11 ผู้เล่นตัวจริง

 – ดาบิด เด เคอา : 6
  เจองานไม่หนัก ตลอดทั้งเกมได้เซฟเบาๆ หนเดียว 


 

 – อารอน วาน-บิสซาก้า : 7
  เกมรุกอาจยังไม่มีทีเด็ด แต่เกมรับยังคงไว้ใจได้ ซึ่งถือเป็นการสานต่อผลงานอันยอดเยี่ยมจากเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ช่วงกลางสัปดาห์

 – วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ : 7.5
  เป็นเกมที่เล่นได้แข็งแกร่ง รับมือได้ทุกรูปแบบ จัดการกับ ติโม แวร์เนอร์ ได้อย่างยอดเยี่ยม

 – แฮร์รี่ แม็กไกวร์ (C) : 7
  คุมแนวรับได้ดี เคลียร์บอลทิ้งได้ตลอด และชนะการดวลลูกกลางอากาศได้แบบ 100% (5/5)

 – ลุค ชอว์ : 6
  อาจจะไร้ข้อผิดพลาด แต่ดูเหมือนเล่นแบบกองหลังสามตัวได้ดีกว่าแบบสี่ตัว แถมมีปัญหาในการรับมือกับ รีส เจมส์ บางจังหวะ


 

 – สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ : 6.5
  ช่วยเกมรับได้ดี ทำให้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เล่นด้วยความยากลำบาก แต่เสียเวลากับบอลมากไปหน่อย

 – เฟร็ด : 7
  สู้กับแดนกลาง เชลซี ได้ดี โดยเฉพาะการตัดบอล ซึ่งเจ้าตัวทำได้ 3 ครั้ง ถือว่ามากสุดในทีม "ปีศาจแดง" เท่ากับ แม็คโทมิเนย์ 


 

 – ฆวน มาต้า : 6.5
  เล่นได้โอเคเลย สร้างโอกาสสวยๆ หลายครั้ง แถมมียิงได้ลุ้น 1 หนด้วย แต่โดยรวมได้บอลน้อยไปหน่อย ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกช่วงครึ่งหลัง

 – บรูโน่ แฟร์นันด์ส : 7
  อาจจะดูเงียบๆ แต่สร้างโอกาสให้เพื่อนลุ้นทำประตูถึง 4 หน มากสุดเหนือทุกคนในสนามเกมนี้


 

 – แดเนี่ยล เจมส์ : 5
  เป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าผิดหวังสำหรับปีกชาวเวลส์ ไม่แปลกใจที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลัง

 – มาร์คัส แรชฟอร์ด : 7
  ช่วง 10 นาทีสุดท้ายครึ่งแรก มีโอกาสหลุดเข้าไปยิงเน้นๆ แต่ติดเซฟ เอดูอาร์ เมนดี้ หลังนั้นก็เล่นได้อันตรายเป็นระยะ แต่การตัดสินใจจังหวะสุดท้ายยังไม่ดี

 

สำรองที่ได้ลงเล่น

 – ปอล ป็อกบา (แทน มาต้า น. 58) : 6.5
  ช่วยยกระดับการทำเกมในแดนกลางได้ดี แต่ช่วงท้ายเกมน่าจะทำได้ดีกว่านี้กับการยิงบริเวณกรอบเขตโทษ

 

 – เอดินสัน คาวานี่ (แทน เจมส์ น. 58) : 6
  ใช้เวลาอยู่ในสนามเพียงไม่กี่วินาที ก็ได้ลุ้นทำประตูแบบเสียวๆ ทันที และช่วงท้ายเกมมีได้ลุ้นอีกครั้งด้วย แม้ไร้สกอร์ แต่ก็โชว์ให้เห็นถึงเซนส์บอลของดาวยิงระดับเวิลด์คลาส

 – เมสัน กรีนวู้ด (แทน แม็คโทมิเนย์ น. 83) : –
  ไม่สามารถให้คะแนนได้

จบกันไม่ได้เอง!โซลชาแอบเสียดายแมนยูแค่เจ๊าเชลซี

 

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รู้สึกเสียดายเล็กๆ ที่ "ปีศาจแดง" ทำได้แค่เปิดบ้านเจ๊า เชลซี 0-0 เชื่อทั้งสองทีมต่างล้ามาจากเกมยุโรป
     โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อว่า ทีมตนสร้างโอกาสทำประตูได้มากพอที่จะเป็นฝ่ายชนะ หลัง "ปีศาจแดง" ทำได้แค่เปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เสมอ เชลซี 0-0 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดบิ๊กแมตช์ เมื่อวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา

     เกมนี้ไม่มีการทำประตูเกิดขึ้น แต่เป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีโอกาสได้ลุ้นมากกว่า แถมเป็นโอกาสสวยๆ ถึง 2-3 หนด้วย ทว่าไม่สามารถส่งบอลผ่านมือ เอดูอาร์ เมนดี้ นายทวารจอมหนึบของ เชลซี ได้ โดยเฉพาะจังหวะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้ยิงเน้นๆ ช่วงท้ายเกม

     "ทั้งสองทีมต่างเพิ่งลงเตะเกมยุโรปมา และผมก็คิดว่า มันส่งผลให้เห็นบ้างเล็กน้อยกับการเล่นทั้งสองทีมช่วงครึ่งแรก ช่วงครึ่งหลังเราพยายามกันอย่างหนัก ซึ่งถ้าหากมีแฟนบอลเต็มอัฒจันทร์ฝั่ง สเตรทฟอร์ด เอนด์ ล่ะก็ เราคงจะทำประตูได้ไปแล้ว เพราะเราสร้างโอกาสได้หลายครั้ง ซึ่งอาจจะมากพอที่จะเป็นฝ่ายชนะด้วย ส่วนเกมรับก็เล่นกันได้ดี ถือเป็นสัปดาห์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับเรา กับผลงานชนะสอง และเสมอหนึ่ง" โซลชา กล่าวหลังเกม

     ผลเจ๊าจากเกมนี้ทำให้ "ปีศาจแดง" มีคะแนนเพิ่มเป็น 7 แต้ม จากการลงแข่ง 5 นัด รั้งอันดับ 15 ส่วน เชลซี อยู่ที่หก มี 9 แต้ม จาก 6 นัด

เร็วสุดแค่14วิ! เปิดท็อป4แข้งยิงประตูด่วนจี๋ไทยลีก2020

ผ่านเข้าสู่นัดที่ 10 ในเลกแรก ของการแข่งขันฟุตบอลไทยลีกฤดูกาล 2020-2021วันนี้ทางทีมข่าวขอนำบทสรุป 4 อันดับนักเตะที่ทำสถิติยิงเร็วสุดในฤดูกาลนี้ ไปดูกันว่ามีใครบ้าง

อันดับ 1.ทำสถิติยิงเร็ว  14 วินาที สุมัญญา ปุริสาย บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

สุมัญญา ปุริสาย ของบีจี ปทุม ยูไนเต็ด เป็นเจ้าของสถิติยิงเร็วสุด ของไทยลีก 2020 เลกแรก โดยใช้เวลาเพียงแค่ 14 วินาที เกมที่พา บีจี บุกไปนำ สุโขทัย เอฟซี ก่อน 1-0 เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2563 ที่สนามทุ่งทะเลหลวง และเป็นประตูแรกของเจ้าตัวในซีซั่นนี้อีกด้วย

อันดับ 2.ทำสถิติยิงเร็ว  33 วินาที แจ็คสัน โคเอลโญ่  สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

เป็นนักเตะ "กว่างโซ่ง" สิงห์เชียงราย ฯ สัญชาติบราซิล อดีตแข้ง บุรีรัมย์ฯ และ เอสซีจี เมืองทองฯ อย่าง "ชาช่า" แจ็คสัน โคเอลโญ่ เจ้าตัวทำสถิติอันดับ 2 ขณะนี้โดยใช้เวลาแค่ 33 วินาที หลังจากผู้ตัดสินเป่าเริ่มเกมนัดที่ สิงห์เชียงรายฯ เปิดบ้าน ชนะ ราชบุรีฯ ไป 2-1 เมื่อ 17 ต.ค. 63 ที่ผ่านมา

อันดับ 3.ทำสถิติยิงเร็ว 48 วินาที เอลิอันโดร  สุพรรณบุรี เอฟซี

ส่วน อันดับ 3 ของสถิติการยิงเร็วสุดในฤดูกาล 2020 นี้เกิดขึ้นเมื่อ 19 ก.ย. 2563 ที่สนาม ทรู สเตเดี้ยม เกมที่ ทรู แบงค็อกฯ แซง ชนะ สุพรรณบุรี เอฟซี  ได้ 2-1 โดยแค่ 48 วินาที ของเกม เอลิอันโดร กองหน้าบราซิล ของ "ช้างศึกยุทธหัตถี"  ซัดให้ สุพรรณบุรี  บุกไปนำก่อน แต่ทีมแพ้ไปในที่สุด

อันดับ 4.ทำสถิติยิงเร็ว   1 นาที 4 วินาที มุสตาฟา อาซัตซอย  ตราด เอฟซี

และปิดท้ายที่ อันดับ 4 ยิงเร็วไทยลีก 2020 เป็นเกมที่สนามกีฬา จ.สุพรรณบุรี เอฟซีเมื่อ 3 ต.ค. 2563 เกมที่ ทีมเยือน ตราดฯ ที่ยังไม่เคยชนะมาก่อนหน้านี้บุกไปชนะ สุพรรณบุรี  ได้ถึงถิ่น 2-1 โดย ประตูแรกของเกม เกิดขึ้นหลังเกมผ่านไปแค่ 1 นาที 4 วินาทีเท่านั้น จากลูกโขกของ มุสตาฟา อาซัตซอย กองหน้า อัฟกานิสถาน  ที่ทำให้ทีมบุกไปนำก่อน 1-0 และ ชนะไปในที่สุด 2-1